Category Archives: อินเตอร์เน็ต

แนวทางการถ่ายรูปให้สวยขึ้นด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น

ภาพ

1. ถ้าคุณคิดว่าการหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพแบบเฉยๆ ยังได้ภาพที่ไม่ถูกใจ ลองเปิดโหมดการถ่ายภาพหรือโหมดสำเร็จรูปสำหรับการถ่ายภาพดูก็ได้ จะรวบรวมการตั้งค่าแบบสำเร็จรูปสำหรับการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่ที่เรามักเจอกันบ่อยๆ เช่น ถ่ายภาพปาร์ตี้ที่อยู่ในพื้นที่แสงน้อย ถ่ายภาพกีฬาที่ต้องการภาพแบบไม่สั่นไหว ถ่ายภาพย้อนแสงยามเย็น ถ่ายภาพกลางคืนที่มีแสงไฟเยอะแต่ฉากหลังมืด การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ Mode ต่างๆ ที่ว่ามานั้นจะมีสูตรในการปรับพวกรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ และ การตั้งค่า ISO กล้องอยู่คร่าวๆ แต่ถึงเราจะเข้าใจและปรับตั้งค่าเองมันเสียเวลาพอสมควร สมมติถ้ามีเพื่อนมารอยืนยิ้มหน้ากล้องแล้วเรามัวแต่ยืนส่องลองปรับแล้วปรับอีกจากที่เพื่อนยืนฉีกยิ้มเพื่อนอาจจะอยากเอานิ้วมาทิ่มหน้าเราแน่ถ้ามัวแต่ยืนแช่กันอยู่อย่างนั้น ถ้าความรู้พื้นฐานมันเข้าใจยาก หรือการเข้าไปปรับแต่งลึกๆ มันลำบากนักก็ใช้แบบสำเร็จรูปดีกว่า

2. ถ้าเคยใช้กล้องฟิล์มถ่ายอาจจะเคยเห็นข้างกล่องฟิล์มที่เขียนว่า ISO 100 ISO 200 ISO 400 ซึ่งค่า ISO คือ ความไวแสง ฉะนั้นที่เขามีไว้ในโทรศัพท์ก็ใช้งานแบบเดียวกัน ถ้าเอาโทรศัพท์ไปถ่ายเพื่อนในที่มีแสงเยอะหรือแดดแรงๆ เช่น ทะเล ภูเขา ในเวลาช่วงบ่ายๆ ให้ลองปรับมาใช้การตั้งค่า ISO กล้อง 100 ISO 200 ถ่ายภาพดู ภาพที่ออกมารับรองว่าออกมาสวยใสแน่นอน แต่ถ้าอยู่ในสภาวะแวดล้อมแสงน้อยอย่างเช่นตอนเช้าๆ หรือว่าตอนเย็นๆ ก็ต้องเขยิบมาที่ ISO 400 หรือถ้าถ่ายภาพในที่แสงน้อยแล้วไม่อยากได้ภาพสั่นไหวก็ต้องเขยิบมาที่ ISO 800 หรือสูงกว่านั้น แต่ข้อควรระวังคือยิ่ง ISO สูงเท่าไหร่ภาพก็ยิ่งแตก แบบที่ภาษาช่างภาพเขาเรียกว่า Noise หรือ Grain

3. ตารางจุดเก้าช่องที่โทรศัพท์แถมมาเป็นจุดตัดของการจัดองค์ประกอบภาพแบบที่เขาเรียกว่าจัด Compose ตัวอย่างภาพถ่ายบนถนนจะใช้ลักษณะของสมดุลเทียมโดยให้จุดเด่นของภาพไปอยู่ที่มุมด้านขวาให้หมด ก็จะใช้สี่เหลี่ยมเป็นตัวจัดองค์ประกอบในภาพว่าอยู่ในกรอบตามนี้แล้วหรือยัง โดยไล่มาด้านขวาบนของภาพจนถึงมุมขวาล่าง และตรงกลางภาพแถวล่างสุด เพราะถ้ามองแบบกรอบสี่เหลี่ยมในภาพรวมเราจะเห็นเส้นนำสายตาที่ถนนจะอยู่ในมุมทะแยงจากซ้ายบนลงมาหาขวาล่างพอดี หรือเราสามารถกะเองด้วยสายตาก็ได้แต่การมีเส้นตารางจะทำให้เราจัดวางง่ายกว่า

4. การวัดแสงก่อนการถ่ายภาพเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงน้อยที่สุดในการใช้โทรศัพท์ถ่ายรูป แต่เป็นจุดชี้ความสามารถของผู้ใช้เลยว่าจะดึงศักยภาพของโทรศัพท์ออกมาได้แค่ไหน เพราะในโทรศัพท์มือถือเขาจะมีการวัดแสงคล้ายๆ กับกล้อง คือ Center weight หรือ เฉลี่ยหนักกลาง มักจะเอาไปใช้กับการถ่ายภาพที่มีจุดสนใจตรงกลางที่สีแตกต่างออกมาจากฉากหลังเยอะๆ อย่างเช่น คุณหยิบโทรศัพท์ไปถ่ายดอกไม้สีขาวดอกเดียวระยะใกล้แล้วฉากหลังเป็นใบไม้สีเขียว Matrix หรือ เมททริกซ์ จะเป็นการวัดแสงแบบเฉลี่ยหลายส่วนหลายพื้นที่แล้วเฉลี่ยความสว่างโดยรวม มักใช้กันในการถ่ายภาพทิวทัศน์ ภาพทะเล ภาพภูเขา ภาพผู้คนเยอะๆ แล้วต้องการเก็บภาพทั้งหมด โดยมากเขาจะตั้งค่านี้มาให้เป็นมาตรฐาน

5. องค์ประกอบสำคัญในการถ่ายภาพอีกอย่างคือ ถ้ารู้จักสภาพแสงดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แสงคือสิ่งสำคัญสุดในการถ่ายภาพให้สวย แต่เวลาที่เราถ่ายภาพเราก็อยากให้สีสันภาพมันออกมาตรง หรือว่าใกล้เคียงกับที่ตาเราเห็นที่สุด White Balance นี่ก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ส่งผลต่อเรื่องนี้มาก เพราะแสงแต่ละทีมีเฉดสีที่แตกต่างกัน โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ White Balance เลยตั้งไว้ที่ AWB หรือ Auto White Balance เพราะกล้องจะคำนวณเองให้หมด

จัดฉากเพื่อเซลฟี่ที่ดีกว่าเดิม

%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%97

 

ใช้กล้องด้านหลังโทรศัพท์มือถือ  โทรศัพท์หลายรุ่นจะมีสองกล้อง คือ กล้องหน้าและกล้องหลัง เปลี่ยนจากถ่ายเซลฟี่กล้องหน้ามาเป็นใช้กล้องหลังในการถ่ายภาพ เพราะกล้องหลังสามารถถ่ายภาพที่คมชัดกว่ากล้องหน้าซึ่งอาจจะออกมาเบลอได้ เพื่อนๆ จะต้องหันโทรศัพท์ไปอีกด้านและไม่สามารถเห็นใบหน้าตัวเองขณะถ่ายภาพ แต่มันก็คุ้มกับความลำบากในการถ่ายด้วยกล้องหลัง

ใส่ใจกับฉากหลังของภาพ  ภาพเซลฟี่ดีๆ นั้นต้องมีดีมากกว่าใบหน้า ในภาพควรมีฉากที่น่าสนใจเช่นกัน ไม่ว่าเพื่อนๆ จะถ่ายภาพในห้องหรือกลางแจ้ง ลองตรวจดูรอบๆ ว่าฉากข้างหลังคืออะไร เลือกฉากที่คนจะอยากเห็น ธรรมชาตินั้นเป็นฉากที่ดูดีเสมอ

ชักชวนคนอื่นมาอยู่ในรูปด้วยกัน  กฎแรกของการถ่ายเซลฟี่ก็คือเพื่อนๆ จะต้องอยู่ในภาพ ชวนเพื่อน พี่น้อง สุนัข หรือคนอื่นๆ มาถ่ายรูปด้วยกัน ภาพจะไม่ได้ดูเหมือนถูกจัดแต่งมากเกินไป แต่จะได้น่าสนใจและสนุกสนานมากขึ้นสำหรับคนที่มาดูรูปของเรา นี่เป็นวิธีที่ดีในการถ่ายเซลฟี่ในที่สาธารณะหากเพื่อนๆ ไม่มั่นใจพอที่จะถ่ายรูปตัวเองคนเดียว

ใส่ใจในแสง  การมีแสงที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพทุกชนิด เซลฟี่ก็ไม่ต่างกัน ถ้าคุณถ่ายเซลฟี่ในห้องที่มีแสงน้อย หรือในห้องที่มีแสงไฟนีออนจ้าๆ ภาพก็จะออกมาไม่สวย แสงธรรมชาตินั้นจะออกมาสวยที่สุด ลองถ่ายเซลฟี่ใกล้ๆ หน้าต่างหรือถ่ายกลางแจ้ง ลองจำสิ่งเหล่านี้ไว้ขณะถ่ายภาพให้ดวงอาทิตย์หรือจุดกำเนิดแสงอยู่ด้านหน้าของเพื่อนๆ เหนือดวงตาเล็กน้อยเพื่อภาพที่สวยที่สุด แสงจะช่วยทำให้ใบหน้าดูสว่างและนุ่มนวลขึ้น

– อย่าใช้กระจกนอกเสียจากว่าไม่มีทางอื่นแล้วที่จะถ่ายรูปที่ต้องการ  ภาพในกระจกนั้นจะกลับด้าน เพื่อนๆ จะเห็นกล้องในกระจก และเป็นไปได้ว่าจะมีแสงสะท้อนแปลกๆ ในภาพ นอกจากนั้นภาพของเพื่อนๆ อาจจะไม่เหมือนจริง เพราะกระจกไม่ได้สะท้อนภาพที่สมบูรณ์แบบเสมอ ยืดแขนออกมาใช้ข้อมือบิดกล้องให้หันมาทางหน้าของเพื่อนๆ แล้วถ่าย อาจจะต้องอาศัยการฝึกซ้อมสักหน่อย แต่ในที่สุดเพื่อนๆ ก็จะรู้องศากล้องที่จะเก็บภาพใบหน้าของตัวเองได้ทั้งหน้า

เทคนิคการถ่ายภาพใต้น้ำให้สวยงามแบบง่ายๆ

%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%97

 

– ปรับความคมชัดของภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์

เช็กความคมชัดของภาพว่าถูกใจหรือเปล่า ซึ่งถ้ายังไม่โดนใจให้ลองปรับความเร็วชัตเตอร์ไว้ที่ 1/30 วินาที สำหรับเก็บวัตถุนิ่ง, 1/60 วินาที เพื่อถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนที่ช้า และ 1/125 วินาที สำหรับเก็บภาพวัตถุเคลื่อนที่เร็วอย่างสัตว์ใต้น้ำ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ภาพดูคมชัดมากขึ้น

– ตกแต่งภาพเพิ่มเติมหลังถ่ายเสร็จ

การถ่ายภาพใต้น้ำย่อมทำให้ภาพไม่ชัดและภาพอาจจะเบลอพอสมควร รวมถึงเรื่องสีอาจจะเพี้ยนไปด้วย  ดังนั้นการใช้โปรแกรมต่างๆ เช่น Photoshop หรือ Lightroom สำหรับตกแต่งภาพจะช่วยให้ภาพคมชัดและสวยงาม แถมยังเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ได้ตามต้องการด้วย

เตรียมกล้องให้พร้อม

ควรจัดเตรียมกล้องและเคสกันน้ำสำหรับกล้องให้พร้อม  เช็กอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยไม่มีรอยรั่วหรือแตกหักใดๆ เลย เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจได้รับความเสียหายจนใช้งานไม่ได้และต้องยกเลิกการถ่ายภาพใต้น้ำในที่สุด แถมยังต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหม่อีกต่างหาก

– ควรมีแสงสว่างมากพอ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเก็บภาพใต้น้ำที่สุดควรเป็นช่วงบ่ายในวันที่แดดแรง เพราะแสงแดดสามารถส่องผ่านน้ำลงมาได้มากพอโดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟ แต่ว่าถ้าถ่ายในช่วงที่แสงแดดน้อยก็ควรที่จะมีแสงไฟจากแหล่งอื่นๆ เสริมด้วย และหากแฟลชติดกล้องให้แสงไม่มากพอสามารถใช้แฟลชแยกที่ใส่เคสกันน้ำหรือสปอตไลท์ช่วยก็ได้

– ใช้พร็อพต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ภาพ

พร็อพในที่นี้สามารถเป็นได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าของแบบ  ของเล่น และของใช้ต่างๆ เช่น หนังสือ ร่ม กีตาร์ หรือสิ่งใดก็ตามที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพได้มากขึ้น  นอกจากนี้การสร้างฟองอากาศใต้น้ำก็ช่วยให้ภาพดูน่าสนใจได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะใช้ปืนยิงฟองหรือหลอดพลาสติกก็ได้ค่ะ

การทำ SEO คืออะไร

SEO หรือ Search engine optimization คือกระบวนการที่พยายามเพิ่ม Traffic ที่มีคุณภาพ เข้าสู่เว็บไซต์ (ของคุณ) จาก Search Enigne ต่างๆ ด้วยวิธีการต่างๆ เพราะโดยปกติแล้วเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่ใน Search Engine ในลำดับแรกๆ มักจะถูกคลิกบ่อยกว่าเว็บไซต์ที่อยู่ด้านล่าง หรืออยู่หน้าถัดไป โดยปกติแล้วเป้าหมายการทำ SEO นั้นอยู่หลายที่ เช่น Image Search, Video Search แต่ที่เราใช้มากที่สุดคือ Web Search นั่นเอง พูดง่ายๆ ก็คือ SEO คือการทำสงครามระหว่าง WebMaster ทั้งหลาย เพื่อช่วงชิงตำแหน่งสูงๆ ของผลลัพธ์ในการค้นหาจาก Search Engine ชื่อดังต่างๆ โดยมี Keyword เป็น อาวุธนั่นเอง

129-1

การที่จะทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นเป็นผลลัพธ์แรกๆ ในการค้นหาจาก Search Engine นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่เราต้องอาศัยความพยายาม โดยหลักการทั่วๆ ไปดังนี้

เลือก Domain Name ที่เกี่ยวกับเนื้อหาของเว็บไซต์ ตัวอย่างของเว็บไซต์ที่เลือก Domain Name ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาคือ GameSpot.com ซึ่งตัวเว็บไซต์ ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Game

การอัพเดทเนื้อหาที่สม่ำเสมอ การอัพเดทเว็บไซต์บ่อยๆ จะทำให้ Search Engine ได้รับข้อมูลใหม่ของเว็บไซต์เราบ่อยๆ โดยปกติแล้ว Search Engine จะชอบเว็บไซต์ ที่มีการเพิ่มเนื้อหาสม่ำเสมอ มากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง

แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน ย้ำนะครับว่าเนื้อหาต้องเกี่ยวข้องกัน ไม่เช่นนั้น Search Engine จะมองว่าเว็บไซต์ที่เราลิงค์ไปนั้นไม่มีคุณภาพ หรือไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ในเว็บไซต์ที่มัน indexed อยู่ สิ่งนี้จะทำให้เราเว็บไซต์ของเรามีค่าลดลงในสายตาของ Search Engine

อย่ามีแค่เนื้อหา ถ้าคุณเวลา คุณสามารถอัพโหลดรูปภาพประกอบเนื้อหาเข้าไปด้วยจะดีมาก เพราะคนที่เข้าชมเว็บไซต์เห็นตัวหนังสือเยอะๆ จะเริ่มเอียน มีรูปภาพบ้างประปราย คนอ่านจะได้พักสายตาบ้าง แถมเว็บไซต์ของคุณอาจจะมีโอกาสไปปรากฏในผลลัพธ์การค้นหารูปภาพของ Search Engine อีกด้วย สองเด้งเลยทีนี้ แน่นอนรวมถึงการอัพไฟล์วีดีโอด้วย ถ้าทำครบได้ก็ดีเลยครับ

 

เคล็ดลับการเลือก keyword สร้างเงินล้านให้กับเว็บไซต์

639

เชื่อว่าปัญหาหนึ่งที่ท่านเจ้าของเว็บไซต์หรือผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์หลายๆท่านหวั่นวิตกหรืออาจกำลังประสบปัญหาอยู่ นั่นก็คือ ไม่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ อาจเป็นเพราะไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ รวมถึงสิ่งสำคัญที่อาจโดนละเลยก็คือ ข้อมูลในหน้าเว็บไซต์ไม่มี “Keyword” หรือ “คำหลัก” ที่จะเชื่อมโยงผู้เข้าชมมายังเว็บไซต์ของท่านได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาที่พบบ่อยที่สุดก็คือ ค้นหาเว็บไซต์ใน Google แล้วไม่พบว่าเว็บติดอันดับในผลการค้นหานั่นเองครับ

เบื้องต้นลองสำรวจกันดูนะครับว่าท่านได้สร้าง “Keyword” ให้กับเว็บไซต์หรือยัง ถ้ายังไม่ได้คิด Keyword หรือคิดแล้วไม่แน่ใจว่าคำเหล่านั้นดีหรือไม่ พี่ปั้นมีเครื่องมือตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Keyword Planner ซึ่งถือว่าเป็นผู้ช่วยคัดสรรค์ Keyword ดีๆ ให้กับธุรกิจของเรามาแนะนำครับ รับรองว่าท่านจะได้ Keyword ที่มีคุณภาพดีและเป็น Keyword ที่สามารถทำเงินและต่อยอดทางธุรกิจของท่านได้อย่างแน่นอน

Keyword   คือ อะไร
เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักมักคุ้นกันก่อนนะครับ “Keyword” หรือ “คำหลัก” คือ คำที่เป็นหลักในเนื้อหาเว็บไซต์ที่เว็บมาสเตอร์เป็นผู้กำหนด  หรือคำที่ลูกค้าต้องการใช้ในการค้นหาเว็บไซต์ที่่เกี่ยวข้องบน Search Engine ต่าง ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็น Keyword ที่เว็บมาสเตอร์กำหนดหรือลูกค้าใช้ค้นหา ย่อมต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงมาถึงเนื้อหาเรื่องเดียวกันได้
ทำไมเว็บไซต์ต้องใช้ keyword
มี Guru หลายท่านที่เคยกล่าวไว้ว่า “เว็บไซต์ที่ไม่มี Keyword เปรียบเสมือนเว็บไซต์ร้าง” เพราะคนทั่วไปไม่รู้จักจึงไม่สามารถเดินทางมายังเว็บไซต์ของท่านได้ ทำให้ท่านเจ้าของเว็บไซต์รู้สึกว่าไม่สามารถใช้เว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และต้องปิดเว็บไซต์ในที่สุด

แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หากท่านมีการวางแผนการใช้ Keyword ที่ดี ซึ่งแผนที่ว่านี้ จะเป็นหลักสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกิจของท่านประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ หากทำให้เว็บไซต์ติด Google ได้ด้วยการใช้ Keyword นั่นเองครับ

Keyword ที่ดีจะต้องบอกได้ว่า “ตัวเราเป็นใคร” การเลือกใช้ Keyword จะต้องสามารถระบุตัวตนและสรุปออกมาสื่อให้ผู้ค้นหาเข้าใจ  โดยสามารถดู Keyword ได้จากประเภทธุรกิจที่ทำ  จุดเด่นของสินค้าหรือบริการ และทราบว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นใคร  แล้วกำหนดเอาความโดดเด่นเหล่านั้นมาใช้เป็น Keyword

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก หรือที่พักประเภท Boutique Hotel   ที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาประเทศไทย  คีย์เวิร์ดที่ใช้อาจจะเป็นคำว่า “Boutique Hotel in Thailand”  หรือระบุความเฉพาะเจาะจงโดยเพิ่มรายละเอียดสถานที่เข้าไปด้วย เช่น “Budget Hotel in Phuket” เป็นต้น